จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2555

วาเลนไทน์


วาเลนไทน์

ประวัติ

วันวาเลนไทน์นั้นมีมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน ในกรุงโรมสมัยก่อนนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ จะเป็นวันเฉลิมฉลองของจูโนซึ่งเป็นราชินีแห่งเหล่าเทพและเทพธิดาของโรมัน ชาวโรมันรู้จักเธอในนามของเทพธิดาแห่ง อิสตรีและการแต่งงาน และในวันถัดมาคือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ก็จะเป็นวันเริ่มต้นงานเลี้ยงของ Lupercalia การดำเนินชีวิตของเด็กหนุ่มและเด็กสาวในสมัยนั้นจะถูกแยกจากกันอย่างเด็ดขาด แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีประเพณี อย่างนึง ซึ่งเด็กหนุ่มสาวยังสืบทอดต่อกันมา คือ คืนก่อนวันเฉลิมฉลอง Lupercalia นั้นชื่อของเด็กสาวทุกคนจะถูกเขียนลงในเศษกระดาษเล็ก ๆ และจะใส่เอาไว้ในเหยือก เด็กหนุ่มแต่ละคนจะดึงชื่อของเด็กสาวออกจากเหยือก แล้วหลังจากนั้นก็จะจับคู่กันในงานเฉลิมฉลอง บางครั้งการจับคู่นี้ ท้ายที่สุดก็จะจบลงด้วยการที่เด็กหนุ่มและเด็กสาวทั้งสองนั้นได้ตกหลุมรักกันและแต่งงานกันในที่สุด
ในรัชสมัยของ จักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่งกรุงโรม พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่มีใจคอดุร้ายและทรงนิยมการทำสงครามนองเลือด ได้ทรงตระหนักว่าเหตุที่ ชายหนุ่มส่วนมากไม่ประสงค์จะเข้าร่วม ในกองทัพเนื่องจากไม่อยากจากคู่รัก และครอบครัวไป จึงทรงมีพระราชโอง การสั่งห้ามมิให้มีการจัดพิธีหมั้นและแต่งงานกันในโรมโดยเด็ดขาด ทำให้ ประชาชนทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง และขณะนั้น มีนักบุญรูปหนึ่งนามว่า เซนต์วาเลนไทน์ หรือวาเลนตินัส ซึ่งอาศัยอยู่ในโรมได้ ร่วมมือกับเซนต์มาริอัสจัดพิธีแต่งงานให้กับ ชาวคริสต์หลายคู่ และด้วยความปรารถนา ดีนี้เองจึงทำให้วาเลนไทน์ถูกจับและระ หว่างนี้ก็ยังคงส่งคำอวยพรวาเลนไทน์ ของเขาเองขณะที่เขาเป็นนักโทษ เป็นความเชื่อว่าวาเลนไทน์ได้ตกหลุมรักหญิง สาวที่เป็นลูกสาวของผู้คุมที่ชื่อจูเลีย ซึ่งได้มาเยี่ยมเขาระหว่างที่ถูกคุมขัง ในคืนก่อนที่วาเลนไทน์จะสิ้นชีวิตโดยการถูกตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับ สุดท้ายถึงจูเลีย โดยลงท้ายว่า “From Your Valentine”
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หลังจากนั้นศพของเขาได้ถูกเก็บไว้ที่โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม จูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอลต์สีชมพู ไว้ใกล้หลุมศพของวาเลนตินัส แด่ผู้เป็นที่รักของเธอ โดยในทุกวันนี้ ต้นอามันต์สีชมพูได้เป็นตัวแทนแห่งรักนิรันดรและมิตรภาพ อันสวยงาม และคำนี้ก็เป็นคำที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่าเบื้องหลังความเป็นจริงของวาเลนไทน์จะเป็นตำนานที่มืดมัว แต่เรื่องราวยังคงแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกสงสาร ความกล้าหาญและที่สำคัญที่สุดเป็นเครื่องหมายของความโรแมนติค จึงไม่น่าประหลาดใจ เลยว่าในช่วงยุคกลางวาเลนไทน์เป็นนักบุญ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในอังกฤษและฝรั่งเศส ต่อมาพระในนิกายโรมันคาทอลิกจึงเลือกให้ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความรักและดูเหมือนว่ายัง คงเป็นธรรมเนียมที่ชายหนุ่มจะเลือกหญิงสาวที่ตนเองพึงใจในวันวาเลนไทน์ สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้

[แก้]นักบุญวาเลนไทน์

นักบุญวาเลนไทน์
วันนักบุญวาเลนไทน์ (Saint Valentine's Day) หรือที่เป็นที่รู้จักว่า วันวาเลนไทน์ (Valentine's Day) ตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันประเพณีที่คู่รักบอกให้กันและกันทราบเกี่ยวกับความรักของพวกเขา โดยการส่งการ์ดวาเลนไทน์ ซึ่งโดยมากจะไม่ระบุชื่อ วันนี้เริ่มเกี่ยวข้องกับความรักแบบชู้สาวในช่วงยุค High Middle Ages เรื่องของ วันวาเลนไทน์ นี้ มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 3 ณ กรุงโรม หรืออาณาจักรโรมัน ในยุคของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง (Claudius II) โดยที่จักรพรรดิพระองค์นี้ มีนิสัยชอบกดขี่ข่มเหงผู้อื่น เขาได้สั่งให้ชาวโรมันทุกคน สักการะนับถือพระเจ้า 12 องค์ โดยผู้ที่ขัดขืนคำสั่งจะถูกทำโทษ รวมทั้งห้ามยุ่งเกี่ยวกับพวกคริสเตียนด้วย แต่นักบุณวาเลนตินุส (Valentinus) - valentine มีความเลื่อมใส ศรัทธาต่อพระคริสต์มาก เขาได้กล่าวไว้ว่า แม้กระทั่งความตายก็ไม่สามารถ เปลี่ยนความคิดของเขาได้ เขาจึงได้ถูกขังคุก
ช่วงอาทิตย์สุดท้ายในชีวิตของเขานั้นได้ มีสิ่งแปลกประหลาดเกิดขึ้น ขณะที่เขาถูกคุมขังอยู่นั้น ผู้คุมขังได้ขอให้วาเลนตินุส สอนลูกสาวเขาซึ่งตาบอดด้วย จูเลียเป็นคนสวยแต่น่าเสียดายที่เธอตาบอดตั้งแต่แรกเกิด วาเลนตินุสได้เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ต่าง ๆ สอนเลข และเล่าเรื่องพระเจ้าให้เธอฟัง จูเลีย สามารถรับรู้สิ่งต่าง ๆ ในโลกนี้ได้ โดยคำบอกเล่าของ วาเลนตินุส เธอเชื่อใจเขาและเธอมีความสุขมากเมื่ออยู่กับเขา
วันหนึ่งจูเลียถามวาเลนตินุสว่า “ถ้าเราอธิษฐาน พระผู้เป็นเจ้าจะได้ยินเราไหม” เขาตอบ “พระองค์เจ้า จะได้ยินเราแน่นอน ท่านได้ยินเราทุกคน” จูเลียกล่าว “ท่านทราบหรือไม่ว่า ข้าอธิษฐานขออะไรทุก ๆ เช้า ทุก ๆ เย็น...ข้าหวังว่า ข้าจะได้มองเห็นโลก เห็น ทุก ๆ อย่างที่ท่านเล่าให้ข้าฟัง” วาเลนตินุสจึงบอก “พระเจ้ามอบแต่สิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ทุกคน เพียงแค่เรามีความเชื่อมั่นในพระองค์ท่าน เท่านั้นเอง”
จูเลีย ผู้ซึ่งมีความเชื่อมั่นในพระผู้เป็นเจ้าจึงได้คุกเข่า กุมมืออธิษฐานพร้อมกับวาเลนตินุส และในขณะนั้นเอง ก็ได้มีแสงสว่างลอดเข้ามาในคุก และสิ่งมหัศจรรย์ก็ได้เกิดขึ้น จูเลียค่อย ๆ ลืมตา แล้วเธอก็มองเห็น เขาและเธอจึงกล่าวขอบคุณต่อพระเจ้า และเรื่องมหัศจรรย์เรื่องนี้ ได้แพร่หลายไปทั่วราชอาณาจักร
ในคืนก่อนที่วาเลนตินุสจะสิ้นชีวิต โดยการถูกตัดศีรษะเขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลีย โดยลงท้ายว่า - From Your Valentine - เขาสิ้นชีพในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หลังจากนั้น ศพของเขาได้ถูกเก็บไว้ที่โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม จูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอลต์สีชมพู ไว้ใกล้หลุมศพของวาเลนตินุส แต่ผู้เป็นที่รักของเธอ โดยในทุกวันนี้ ต้นอามันต์สีชมพูได้เป็นตัวแทนแห่งรักนิรันดร์และมิตรภาพอันสวยงาม

[แก้]การส่งดอกไม้วันวาเลนไทน์

มนุษย์ได้ใช้ดอกไม้เป็นสื่อในการแสดงความรักต่อกันมานานแล้ว เราคิดว่าดอกไม้เป็นสิ่งความรักของหนุ่มสาวเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วดอกไม้ยังใช้สื่อความรักได้หลายรูปแบบ ทั้งยังไม่จำกัดอายุและเพศอีกด้วย
  • กุหลาบแดง (Red Rose) : จะใช้ในความหมายแทน ประโยคที่ว่า "ฉันรักเธอ"
  • กุหลาบขาว (White Rose) : กุหลาบขาวแทนความหมายแห่งความรักอันบริสุทธิ์
  • กุหลาบชมพู (Pink Rose) : มักถูกใช้แทนความรักแบบโรแมนติก และความเสน่หาต่อกัน
  • กุหลาบเหลือง (Yellow Rose) : สีเหลืองเป็นสีแห่งความสดใส แทนความรักแบบเพื่อน
โดยในการมอบดอกกุหลาบในวันวาเลนไทน์นั้นเชื่อกันว่า จำนวนดอกกุหลาบที่มอบแก่กันนั้น มีความหมายต่อความรักกันอีกด้วย โดยได้แก่
  • 1 ดอก หมายถึง ความรักแบบ รับแรกพบ
  • 2 ดอก หมายถึงการแสดงความยินดี
  • 3 ดอก แทนคำบอกรักว่า ฉันรักเธอ
  • 7 ดอก แทนคำพูดที่ว่า เธอทำให้ฉันหลงเสน่ห์
  • 9 ดอก แทนความหมายที่ว่า ทั้งสองคนจะรักกันตลอดไป
  • 10 ดอก แทนความหมายว่า เธอเป็นคนที่ดีเลิศที่สุด
  • 11 ดอก แทนความหมายว่า การเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดของฉัน
  • 12 ดอก แทนความหมายว่า การขอให้เธอเป็นคู่ฉัน
  • 13 ดอก แทนความหมายว่า ความเป็นเพื่อนแท้เสมอ (ซึ่งอีกนัยหนึ่งคือ การบอกปฏิเสธด้วยความรักอย่างเพื่อน)
  • 15 ดอก แทนความหมายว่า แทนความรู้สึกเสียใจจริง
  • 20 ดอก แทนความหมายว่า ความจริงใจต่อกัน
  • 21 ดอก แทนความหมายว่า ถึงการมอบชีวิตอุทิศให้
  • 36 ดอก แทนความหมายว่า ความทรงจำที่แสนหวานที่ยังมีต่อกัน
  • 40 ดอก แทนความหมายว่า ยืนยันว่าความรักเป็นรักแท้
  • 99 ดอก แทนคำพูดที่ว่า ฉันรักเธอจนวันตาย
  • 100 ดอก แทนคำพูดที่ว่า ฉันอุทิศชีวิตนี้เพื่อเธอ
  • 101 ดอก แทนคำพูดที่ว่า ฉันมีเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น
  • 108 ดอก แทนความหมายถึงการขอแต่งงานแบบอ้อมๆ ที่ผู้ให้ไม่กล้าพูด
  • 999 ดอก แทนคำพูดที่ว่า ฉันจะรักเธอจนวินาทีสุดท้าย
  • 1,000 ดอก แทนคำพูดที่ว่า ฉันจะรักเธอจนวันตาย
  • 9,999 ดอก แทนคำพูดที่ว่า ฉันจะรักเธอชั่วนิรันดร



              



วาเลนไทน์ บวชเป็นพระสงฆ์ที่กรุงโรมและได้เป็นพระสังฆราชในเวลาต่อมา ท่านได้ถูกจับโดยคำสั่งของจักรพรรดิโกลดิโอ ที่ 2 เพราะท่านขึ้นชื่อลือเด่นในทางบำเพ็ญฤทธิ์กุศลหลายประการขั้นแรกจักรพรรดิทรงซักถามวาเลนไทน์ด้วยความมักรู้มักเห็น แต่ต่อมาทรงรู้สึกสนพระทัยในคำสอนของคริสตัง ที่สุดพระองค์ตรัสว่า : “คำสอนของบุรุษผู้นี้ฟังแล้วจับใจจริง ๆ “ แต่ในขณะที่พระองค์ทรงเริ่มมีความเชื่อ ท่านผู้ว่าราชการกรุงโรมก็จัดให้ผู้พิพากษานายหนึ่งเข้ามาซักถามท่านวาเลนไทน์ ผู้พิพากษาคนนี้เยาะเย้ยท่านในเรื่องที่คริสตังชอบกล่าวว่า  “พระคริสต์ทรงเป็นองค์ความสว่างของโลก”
ลูกสาวของผู้พิพากษาคนนี้ตาบอด วาเลนไทน์ได้ทำอัศจรรย์ให้หาย อัสเตริอุส ผู้พิพากษาจึงกลับใจเชื่อถึงพระเยซูคริสตเจ้า เมื่อเห็นดังนั้น ท่านผู้ว่าราชการเกิดความอิจฉา และต้องการกำจัดท่านวาเลนไทน์ จึงจับท่านวาเลนไทน์ไปขังไว้ในคุกมืด แล้วใช้ไม้เป็นปุ่มเป็นตาเฆี่ยนท่านอย่างสาหัส ที่สุดนำท่านไปตัดศีรษะ นักบุญวาเลนไทน์ เป็นองค์อุปถัมภ์ของชาวเมืองตารัสก็อง (ภาคใต้ของฝรั่งเศส)
ธรรมเนียมเกี่ยวกับการส่งบัตรอวยพร ส่งความรักในวันเวนไทน์นั้น ไม่มีใครทราบว่าธรรมเนียมนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่เคยมีเรื่องเล่าไว้ว่า นกจะเริ่มจับคู่กันในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ฉะนั้นเราจึงได้ส่งบัตรอวยพรและส่งความรักในวันดังกล่าวซึ่งตรงกับวันฉลองศาสนนามของท่านนักบุญวาเลนไทน์ จึงทำให้ชื่อของท่านปรากฏขึ้นในวันแห่งความรักตามธรรมเนียมดังกล่าว
 ข้าแต่พระเป็นเจ้า พระองค์โปรดให้นักบุญวาเลนไทน์เป็นแบบอย่างและกำลังใจแก่พวกเราในเรื่องของความเชื่อ และความรักที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ โดยอาศัยแบบอย่างจากท่านที่มั่นคงต่อพระผู้เป็นเจ้าสูงสุด ทำให้เราได้มีเวลาสวดภาวนามากขึ้น และยึดมั่นในความเชื่อต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าหนึ่งเดียวตลอดไปด้วยเทอญ




วาเลนไทน์นี้คุณๆทั้งหลายที่ไม่รู้ว่าจะให้อะไรกับคนที่คุณรักดี มาลองแวะมาดูทางนี้สิคะ เพราะทางเราได้รวบรวมของขวัญยอดฮิตประจำเทศกาล และสินค้าแปลกๆ ไอเดียเก๋ๆมาแนะนำให้คุณได้ซื้อหาไปฝากคนรักของคุณได้อย่างถูกอกถูกใจกันแน่นอนคะ นอกจากนี้เรายังมีคำแนะนำการเลือกสินค้า ที่เหมาะสมกับคนให้และผู้รับ รวมไปถึงสถานที่จะหาซื้อสินค้าต่างๆเหล่านี้กันอีกด้วยคะ
 
ดอกไม้
เป็นของยอดฮิตที่สุด ในวันวาเลนไทน์ เพราะความหมาย ก็คือแทนคำว่ารัก ได้ดีที่สุด ดอกไม้ที่ขายดีที่สุดอันดับแรกคือ กุหลาบแดง ซึ่งหมายถึง การบอกว่าฉันรักเธอ ซึ่งหนุ่ มสาวมักจะให้กัน กุหลาบขาว หมายถึง ความรักที่บริสุทธิ์งดงาม ส่วนคนที่ให้ กุหลาบสีเหลือ ง คือการแทนความห่วงใยให้กัน และแทนมิตรภาพระหว่างเพื่อน ส่วนคนที่ให้กุหลาบขาว นันหมายถึงความอันบริสุทธิ์ แนบแน่น สำหรับดอกอื่นๆ เช่น ลิลลี่สีขาว ก็เป็นที่นิยมให้กัน หมายถึงคุณเป็นคนที่โรแมนติค อ่อนหวาน ดอกคาร์เนชั่นสีแดง หมายถึง ความรักอย่างสุดซึ้ง ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู แต่ดอกคาเนชั่นสีขาว เมืองฝรั่งเขาถือว่าเป็นดอกไม้งานศพนะจ๊ะ
แทนความรักอันยืนยง ดอกมัมสีแดง แทน คำว่ารักอันสดใส หนุ่มสาวมักให้กัน ดอกมัมสีเหลือง แทนความรักแรกแย้ม หรือ ดอกทิวลิปสีแดง ที่แทนความหมายที่ ความรักที่พร้อมจะฝ่าฟันไปด้วยด้วยกัน นอกจากนี้ก็ยังมีดอกไม้อื่นๆอีกมากมาย ที่ให้ได้แต่คงเน้นที่ความหมายและวัยของคนที่รับเป็นหลัก
คำแนะนำ ดอกไม้ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย คงเน้นว่าคนที่คุณให้เขาชอบดอกไม้อะไรเป็นหลัก นอกจากนั้นก็ดูที่เพศหรือวัยให้เหมาะสม บางทีก็ไม่จำเป็นต้ องเว่อจนเกินไปหรอก ส่วนสถานที่ซื้อก็เลือกหาตามร้านดอกไม้ทั่วๆไป

 ช็อกโกแลต               แทนความรัก ถือเป็นสินค้ายอดนิยมอันดับ 2 ซึ่งสื่อความหมายของความรักมาแต่ไหนแต่ไร ซึ่งก็แพร่หลายมาจากต่างประเทศ วัยรุ่นไทยก็มาเลียนแบบเหมือนเดิม จนเป็นที่นิยมอย่างมากมาย ปัจจุบันก็มีร้านที่รับทำช็อกโกแลตในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะทรงหัวใจนี้ขายดีมากๆ และราคาก็สูงเป็นพิเศษด้วย
คำแนะนำ ช็อกโกแลต คงจะเหมาะกับวัยรุ่นมากกว่า ส่วนคนทำงานทั่วไปก็ให้ได้ แต่ที่แน่ๆ ผู้สูงอายุไม่แนะนำ เพราะอาจทำให้ฟันผุ ส่วนสถานที่ซื้อก็หาได้หลายที่ ถ้าทั่วๆไปก็ซื้อตามห้างสรรพสินค้าทั่วๆ ไป แต่หากจะเป็น ช็อกโกแลตดีๆหรือประเภทสั่งทำ ก็มีตามร้านขายหรือตามร้านซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในโรงแรมทั่วไป

การ์ด
   แทนความห่วงใยและรัก เป็นสินค้ายอดนิยมอันดับ 3 ที่นิยมให้กันในวันนี้ ส่วนใหญ่การ์ดให้ได้ในทุกๆงาน และก็มักให้คู่กับของ ขวัญอื่นๆเช่น ดอกไม้ หรือ ช็อกโกแลต ข้อดีของมันก็คือราคาที่ไม่แพง และหาซื้อได้ง่าย ทั่วไป นอกจากนี้ยังสามารถบอกความในใจได้ด้วยคำบรรยาย
   คำแนะนำ เป็นสินค้าที่ให้กันได้ทุกเพศวัย แต่ควรเลือกการ์ดที่เหมาะกับวัยของคนที่ให้ และถ้ารู้ว่าขอชอบรูปแบบไหน หรืออะไรได้ยิ่งดี และหากจะให้ประทับใจหน่อยสำหรับคนรัก หรือวัยรุ่นก็น่าจะมีเสียงเพลงเสียหน่อย จะดีมาก ส่วนสถานที่ซื้อการ์ด ห้างสรรพสินค้าที่ไหนก็มีจ้า

ตุ๊กตา
   แทนคำว่ารักและชอบ สินค้ายอดนิยมอันดับ 4 ที่นิยมให้กันมาก ตุ๊กตานี้เป็นสินค้าที่ให้กันได้ตลอดที่เทศกาลแห่งความสุขจริงๆ ส่วนใหญ่ตุ๊กตาที่ให้กันในเทศกาลวาเลนไทน์ ก็จะเป็นประเภทน่ารักๆ ไม่ได้เน้นความหมายอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็คงจะดูสถานะภาพกระเป๋าตัวเองเป็นหลัก
     คำแนะนำ เหมาะสำหรับให้กับวัยรุ่น ฝ่ายหญิงมากกว่า เสียมากกว่า ควรเลือกตุ๊กตาที่คนที่รับชอบ หรือถ้าไม่รู้จริงๆ ก็ให้ตุ๊กตาห มี หรืออะไรก็ได้ที่น่ารักๆ แต่อย่าสื่อไปในทางที่เลวร้าย เช่น ตุ๊กตาควาย เพราะอาจจะโดนตบได้ ส่วนสถานที่ซื้อก็หาซื้อได้ทั่วไป ตามห้างสรรพสินค้า หรือย่านขายของต่างๆ

กรอบรูป
แทนความคิดถึงและผูกพัน อันนี้ก็ให้กันก็ให้กันมาก เพราะเป็นสินค้าที่หาซื้อง่าย ราคาไม่แพงมาก นอกจากนี้ยังเป็นสินค้าที่ผูกพันทางใจ โดยเฉพาะวัยรุ่นนี่ให้กันมาก ราคา 50 บาทก็หาซื้อกันได้แล้ว ซึ่งบางทีให้เก๋ก็ใส่รูปคนให้ไปด้วย เอาไว้ดูต่างหน้าแก้คิดถึง
คำแนะนำ ของขวัญชิ้นนี้ ส่วนใหญ่วัยรุ่น เขาจะนิยมให้กัน แต่ถ้าคนวัยทำงาน หรือคนทั่วๆไปก็ไม่แปลกอะไร อีกข้อหนึ่งก็คือ ส่วนใหญ่คนให้คนรับ ควรจะเป็นคนโสด หรือว่ารักกันหวานแหวว แต่เพื่อนให้เพื่อนคงไม่เหมาะเท่าไหร่ ส่วนสถานที่ซื้อสินค้าก็หาเลือกซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าและร้านค้าทั่วไป

น้ำหอม
             น่าจะแทนความห่วงใยและใกล้ชิดได้เป็นอย่างดี เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ฝ่ายชายส่วนใหญ่ก็จะเลือกกลิ่นน่ารักๆ หอมสบาย ให้ค นรัก ส่วนสาวๆ ก็ไม่แพ้กัน นิยมซื้อน้ำหอมให้หนุ่มๆเหมือนกัน ส่วนใหญ่ก็จะ แมนๆ
             คำแนะนำ น้ำหอมน่าจะเหมาะกับคนที่รู้ใจกัน หรือคบหากันมาพอสมควร เพราะต้องเป็นคนที่รู้ใจกันจริงๆ จึงจะเลือกให้กันถูก เพราะหากเลือกกลิ่นไม่ถูกใจ อาจมีปัญหาได้ ส่วนใหญ่น้ำหอมเหล่านี้คุณๆก็หาซื้อกันได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วๆไป

 เทียนหอม
   เป็นของขวัญมาแรง ของวัยรุ่น เพราะราคาไม่แพง สวย ดูแล้วน่ารักดี ปัจจุบันมีการทำเทียนหอม ในรูปแบบต่างๆมากมาย โดยเฉพาะรูปหัวใจ เทศกาลนี้ขายดีมาก และที่ว่าใหม่นั้นคือเทียนหอม ที่จุดแล้วมีเสียงเพลง ซึ่งก็ดูแล้วเก๋ไปอีกแบบ
   คำแนะนำ เทียนหอม สามารถให้ได้กับทุกเพศทุกวัย แต่ก็ต้องดูลวดลายหรือแบบว่าน่าจะเหมาะกับคนที่คุณจะให้หรือเปล่า เทียน หอม เป็นของที่ น่ารัก สวยงาม หลากหลายรูปแบบ ราคาก็แตกต่างกันออกไป ถือเป็นของขวัญใหม่ ที่นิยมให้กันทุกเทศกาล เพราะเทียนหอมสามารถทำในรูปแบบต่างๆได้ ส่วนท่านที่หาซื้อ ก็มีอยู่ตามห้างสรรพสินค้าทุกแห่ง และตามร้านของขวัญทั่วไป

 แหวน 
     ของขวัญแทนใจ ที่ส่วนใหญ่ชายมักมอบให้หญิง คบกันและและรู้จักกันมาก จนมั่นใจว่า เธอคนนั่นรักตอบ เพราะแหวนเป็นเสมือนสิ่งแทนใจ และจับจองหัวใจไว้ ซึ่งก็นั่นหมายถึงคู่รักที่ให้แก่กัน

คำแนะนำ ส่วนใหญ่จะเป็นคู่รักให้กัน ฝ่ายชายให้ฝ่ายหญิง และคงต้องเลือกให้ถูกใจผู้รับเป็นพิเศษ ถ้าพาไปเลือกด้วยเลยก็จะดี แหวนส่วนใหญ่แหวนที่ให้กันจะเป็นแหวนรูปหัวใจ หรือชื่อย่อ แต่การที่มีคนให้แหวน นั้นหมายถึงเขาจับจองตีตราคุณแล้วนะ

หมอน ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอนและผ้านวม
   สำหรับไอเดียที่สกรีนรูปหน้าของเราหรือเราทั้งคู่ลงในอุปกรณ์เครื่องนอนต่างๆ ก็เป็นความคิดที่โรแมนติคที่ดีเลยทีเดียวนะคะ เ ปรียบเสมือนคนรักจะได้เห็นหน้าเราก่อนนอนทุกคืนเลยไงคะ หรือสำหรับสาวๆที่มีฝีมือ หรือมีความอดทนขึ้นมาหน่อย อาจจะลงทุนเย็บหรือปักเป็นชื่อให้กับคนรักเลยก็ได้ รับรองคนรับต้องปลื้มจนยิ้มไม่หุบเลย คนให้ก็คงภูมิใจไม่น้อยเลยทีเดียวหละคะ
   คำแนะนำ หากทำด้วยมือก็จะประทับใจคนที่รับเป็นพิเศษ และหากรู้ใจคนที่ให้ว่าเขาชอบอะไร ถ้าทำลวดลายนั้นเขาก็ยิ่งประทับใจไปอีก


ความสนิทสัมพันธ์นำคนรักเข้าไปลึกถึงวิญญาณ  ของกันและกันจึงล่อแหลมต่อการติฉินนินทา  อับอานขายหน้า และคำพูดหักหาญน้ำใจกัน ความเมตตาคือความดีอย่างเดียวที่แข็งพอจะปกป้องความเครียด  ความผิดหวัง น้อยเนื้อต่ำใจ และความไม่เข้าใจกัน  ขัดกัน  นำมาซึ่งความแตกร้าว ทำลายคุณค่าความรู้สึกดี ๆ ต่าง ๆ ในตัวคนที่เรารักจนหมดสิ้น
จงฟังอย่างไหวทัน
ความสนิทสัมพันธ์เปิดโอกาสให้เราได้พูดอย่างเปิดเผยตามความรู้สึกที่แท้จริงเพียงเพื่อทั้งคู่ได้ทราบข้อเท็จจริง  คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น  การรอคอยให้เวลาเข้าใจจะเป็นตัวค้ำประกันว่า เราบอกอะไรเขา  เขาก็ได้ยินอย่างที่บอก ไม่ใช่พูดคนละเรื่อง
วิธีการง่าย ๆ  ได้แก่  เริ่มทักทายกันด้วยการเรียกชื่อต้น นั่งลงคุยกัน มองตากันเพื่อจะไม่เกิดความเบื่อหน่าย การตัดสินใจใ นเรื่องสำคัญ ๆ เรามักทำกันอย่างลวก ๆ  การสบประมาทเป็นเหตุให้เกิดความไม่สมดุลและไม่อยากพยายามเข้าใจ  ฝ่ายตรงข้ามอีกต่อไป
ความสนิทสัมพันธ์ทำให้เราตั้งใจฟังจนเรื่องจบด้วยความอดทนและมองในแง่มุมที่เหมาะสม ( แง่มุมของเราอาจผิดก็ได้ และแง่มุมของเขาอาจถูกก็ได้ ) ดังนั้ นจึงไม่ควรรีบเสนอแนะและพยายามอธิบายให้ทราบเสียก่อนว่า  คนรักของเราต้องการให้เรารู้เรื่อง อะไร เขา / เธอ  กำลังปวดร้าว  เรื่องแค้นใจเก่า ๆ  ( โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแฟนเก่า )  หรือไม่ก็อ่อนแอ ช่วยตัวเองไม่ได้ เช่น ติดเหล้า  หลงผู้หญิง  กินมากเกิน  เป็นต้น การรับฟังอย่างไหวทันจะทำให้เราเข้าใจความรู้สึกลึก ๆ  อยู่ภายใ นใจคนรักว่าต้องการบอกอะไรเขา แต่ไม่กล้าบอกตรง ๆ อาจเพราะเป็นเรื่องน่าอับอายจึงหยั่งเชิงดูก่อนหรือทดสอบความรู้สึกนึกคิดของเราเป็นต้น 
 รู้กาลเทศะ
ความสนิทสัมพันธ์จะช่วยให้รู้กาละเทศะ อะไรควร ไม่ควร จงพูดให้ถูกเวลาและสถานที่ การรอจังหวะเวลาอันควรคือมารยาทอันงดงามและรู้จักเกรงอกเกรงใจ  คนเรารักกันคำพูดไม่สำคัญเท่าน้ำเสียง  การพูดให้ถูกเวล่ำเวลารู้ว่าที่ไหนควรพูด ไม่ควรพูด ต่างหากที่คนรักของเราอยากให้เราทำได้เช่น ไม่ฉีกหน้ากันต่อหน้าคนอื่น ไม่เล่าเรื่องบนเตียงในที่ประชุมกลุ่มแม่บ้าน
เวลาอยู่กันตามลำพัง  จึงเป็นเวลาเหมาะแก่การออกความคิดเห็น  สามารถวิจารณ์กันอย่างสร้างสรรค์หรือแสดงอารมณ์ออกมา  คนรักที่ดีจะรอโอกาสอันควรที่ จะแสดงออกมาหลังจากได้เตรียมคำพูดที่เหมาะสมและแน่ใจว่าคนรักของเขา / เธอ จะเข้าใจเพราะมีกาละเทศะ จึงไม่เสี่ยงแสดงอารมณ์รุนแรงต่อคนรักในที่สาธารณะ
มีกาลเทศะ
แปลว่าไม่สร้างปัญหาก่อนออกงานสังคม หรือเวลาแขกมาบ้าน ไม่ทำลายบรรยากาศของวันพิเศษหรือทำให้สถานการณ์ที่แย่อยู่แล้วกลับแย่หนักลงไปอีก มีเวลาและโอกาสอื่นที่เราจะได้แสดงความคิดเห็น ความสนิทสัมพันธ์กันมาก ๆ ก็จะรู้เองว่าเมื่อไร ยามเขามีอารมณ์อย่างไรจึงจะบอกได้ ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นปัญหาก็แก้ของมันไปเองแล้ว หรือไม่ก็ไม่สำคัญอีกต่อไป
 นักแก้ปัญหา
ความสนิทสัมพันธ์สอนให้เรารู้ว่า  ปัญหาที่เคยแก้ไขสำเร็จมาแล้วในอดีต  อาจกลับกลายมาเป็นปัญหาในปัจจุบันได้อีก  ถ้าคน รักเกิดไปสะกิดความทรงจำที่น่าอาย ซึ่งเรื่องที่หัวเราะไม่ออกให้อีกฝ่ายฟังอยู่บ่อย ๆ  การตอกย้ำทุกครั้งที่พบปัญหาเดิมหรือปัญหาใหม่  เช่นนี้จะทำให้ความโกรธแค้นฝังรากลึกลงไป พฤติกรมของคน รักยิ่งวันก็ยิ่งเก็บตัว  จำไว้ว่าแม้แต่ฆาตกรก็ยังไม่ยอมขึ้นศาล ในความผิดซ้ำสอง
 หนทาง 4 อย่างที่ช่วยให้เราสร้างความสัมพันธ์ให้ดีขึ้นคือ
ถ้าเราให้อภัยได้ เวลาจะช่วยให้เราลืมได้ ถ้าเราเป็นผู้เริ่มต้นใหม่  ความรักจะผลักดันให้เราสานต่อ
เข้าข้างคนที่เรารัก  กลมเกลียว   สมานฉันท์กัน  เก็บข้อแตกต่างของกันและกันไว้เป็นอดีต จำไว้ว่า คนที่ขุดค้นอดีตเพื่อฝังข้อขัดแย้งในปัจจุบัน มักจะเป็นผู้แพ
ความผันแปรของชีวิต
ความสนิทสัมพันธ์ ช่วยให้เราอดทนต่อความผันแปรของชีวิตที่ต้องเกิดขึ้นได้ อาศัยความรัก ความทะนุถนอมน้ำใจกัน รู้ใจเขาใจเรา  ผ่อนสั้นผ่อนยาว จะช่วยบรรเทาอารมณ์ความเจ็บปวดรุนแรง ความเหงา ความว้าเหว่ เพราะความผันแปรของชีวิตลงไปได้
ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง  การให้ความสำคัญและเวลา  การเอาใจใส่ต่อคนรักก็ย่อมเปลี่ยนไปด้วย
ความสนิทสัมพันธ์ช่วยให้ความรักยังคงอยู่ในความพอดีได้ ก็ต่อเมื่อเรายอมทิ้งสิ่งเก่า ๆ และปรับตัวให้เข้กับสิ่งใหม่ สิ่งเก่า ๆ  ย่อมขึ้นสนิม  เป็นธรมดาก่อนตั ดสินใจอะไรก็ให้นึกถึงผลเสียที่จะตามมาเสียก่อน  ถ้าเป็นงานใหม่ที่ต้องทิ้งภรรยา / สามี ให้อยู่บ้านตามลำพัง ความห่างเหินย่อมเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การปล่อยให้ความสนิทสัมพันธ์ถึงจุดวิกฤตนั้นมันคุ้มกันไหม ?
เงียบเสียก็หมดเรื่อง
ความสนิทสัมพันธ์สอนให้รู้ว่า การไม่ได้โต้ตอบบางครั้งก็ช่วยให้ครอบครัวมีสันติสุข การใช้คำพูดที่ทำให้เขา / เธอ ไม่รู้สึ กว่าตัวเองบกพร่องหรือทำผิด จะช่วยไม่ให้เกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรงหรือ " ระเบิดอารมณ์ " ใส่กัน
ยามใดที่ไม่จำเป็นต้องโต้เถียงก็เงียบเสีย กล้ำกลืนลดทิฐิลงบ้าง ให้เวลาคนรักได้สงบสติอารมณ์ก่อนแล้วค่อยพูดค่อยจากัน  ฝ่ายหนึ่งเงียบเสียก็หมดเรื่อง เพราะการตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดัง
เจ็บใจสักนิดดีกว่าแตกร้าวจนปวดใจไปตลอดชีวิต ถามตัวเองว่า
" การไม่โต้ตอบเขา / เธอ คุ้มไหม ? "
 " การชนะเขา / เธอ ก็จริง
แต่มันคุ้มกับความปวดร้าวระบมของจิตใจไหม ? "
จริงอยู่บางครั้งเรต้องแสดงความคิเห็นออกมาและทุกข์ทรมานเพระความเห็นไม่ตรงกันบ้าง  นี่เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่และจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็มีหลายครั้งทีเราต้องกล้าที่จะเงียบฟังกันและกันบ้าง         

วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

ครูในดวงใจ

ครูในดวงใจ
               “เพียงแต่สอนนั้นไซร้  ไม่ลำบาก  แต่เป็นครูนั้นซิยากเป็นหนักหนา  เพราะต้องใช้ศิลปวิทยา  อีกมีความเมตตาอยู่ในใจ” คำกล่าวของหม่อมหลวงปิ่น  มาลากุล เป็นคำกล่าวที่ประทับใจข้าพเจ้าเป็นอย่างยิ่งและข้าพเจ้าได้ยึดเอาคำกล่าวนี้ไว้ปฏิบัติกับนักเรียนตลอดมา



ซึ่งหากครูจะทำแต่การสอนให้เป็นไปตามหน้าที่ในการถ่ายทอดเพียงวิชาความรู้ให้กับเด็ก นั้นไม่มีความยากลำบากอะไรเลย  แต่การเป็นครูให้ที่ดีทำหน้าที่ดูแลเด็กนักเรียนให้ครบถ้วนสมบูรณ์นั้นต้องอาศัยความอดทนทุ่มเท  เสียสละ  อุทิศตน เพื่อเด็ก  ต้องใช้ทั้งความรู้ทั้งศาสตร์และศิลป์  ต้องรักและเมตตาต่อเด็ก    เพื่อให้เด็กซึ่งจะเติบโตเป็นอนาคตของชาติในภายภาคหน้า  เป็นคนดี  คนเก่งและมีความสุขได้นั้น จักต้องมีครูคอยดูแลเอาใจใส่หล่อหลอมให้เด็กมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ของสังคม  เพื่อให้เด็กที่เปรียบเสมือนผ้าขาวที่ได้ครูดีคอยแต่งแต้มสีสัน ลงบนผืนผ้า อย่างประณีตและใส่ใจ ผืนผ้าก็จะออกมาอย่างสวยงาม ทรงคุณค่า และคงไม่มีใครปฏิเสธว่าครูเปรียบเหมือนพ่อแม่คนที่สองของลูก ที่เฝ้าอบรมดูแล อุทิศตนสั่งสอนให้ลูกเป็นคนเก่ง  คนดี  มีคุณธรรม สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข

               ข้าพเจ้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถและทำหน้าที่อย่างเต็มใจ  ในการอบรม   สั่งสอนศิษย์ได้ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างทางด้านการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องให้กับนักเรียน ครูและชุมชน ด้วยการจัดการเรียนการสอนด้วยวิธีการที่หลากหลายโดยคำนึงถึงศักยภาพและความแตกต่างระหว่างบุคคล ของผู้เรียน ส่งผลให้นักเรียนได้รับรางวัลอัจฉริยภาพทางภาษาไทย ระดับเหรียญเงิน ในการแข่งขันทักษะวิชาการนักเรียนของเขตพื้นที่ และครูผ่านเกณฑ์การประเมินสมรรถนะครูตามโครงการยกระดับคุณภาพครูทั้งระบบภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งเป็น Master Teacher วิชาภาษาไทยระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และได้รับรางวัล  ครูรักการอ่านดีเด่น และโรงเรียนรักการอ่าน ดีเด่น ประจำปีการศึกษา 2549 ของสำนักงานเขตพื้นที่
เป็นแบบอย่างด้านการพัฒนาตนเอง  โดยใส่ใจศึกษาค้นคว้าริเริ่มสร้างสรรค์ความรู้ใหม่  ๆ  เกี่ยวกับวิชาชีพอยู่เสมอโดยการเข้าศึกษาต่อในระดับบัณฑิตศึกษา  สาขา สารสนเทศศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  ศึกษาดูงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ  นำความรู้ที่ได้รับมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนวิชาคอมพิวเตอร์จัดการเรียนการสอนได้เป็นที่ประจักษ์ โดยได้ จัดทำเว็บไซต์ www.kruyaowarat.com เป็นสื่อกลางในการจัดการเรียนรู้ไปสู่นักเรียน  คณะครู  และขยายผลในชุมชน ทำให้ผู้เรียนเป็นผู้มีความรู้ที่ทันสมัย   ทันเหตุการณ์  ส่งผลให้นักเรียนได้รับ รางวัลระดับเหรียญเงินและเหรียญทองแดง 4  รายการ ในการแข่งขันทักษะวิชาการนักเรียนของเขตพื้นที่ประเภทการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สร้างสรรค์ผลงาน และครูผู้สอนผ่านเกณฑ์การประเมินจากสำนักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน  สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในการส่งเสริมการใช้  Social Media
ในการจัดการเรียนรู้  ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ เมื่อวันที่  26  กรกฎาคม  2553
ศึกษาการสอนดนตรีไทยพื้นบ้านร่วมกับครูภูมิปัญญาชาวบ้าน จนเกิดทักษะในการสอนสามารถนำมาถ่ายทอดให้เด็กๆได้  จัดกิจกรรมดนตรีบำบัดให้กับนักเรียนกลุ่มเสี่ยงให้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ สามารถแสดงออกในที่ชุมชนได้โดยได้เข้าร่วมแสดงในงานฤดูหนาวและกาชาดจังหวัดลำปางประจำปี พ.ศ. 2553  ส่งผลให้นักเรียนได้รับรางวัลระดับเหรียญทองประเภทร้องเพลงไทยลูกทุ่งและรางวัลระดับเหรียญทองแดง ประเภทเดี่ยวดนตรีไทย ในการแข่งขันทักษะวิชาการของเขตพื้นที่
เป็นอาสาสมัครโครงการเยาวชนไทยในวันพรุ่งนี้  โดยได้ดำเนินการขอรับทุนจากทางโครงการฯ  มาอย่างต่อเนื่อง เข้าร่วมอบรมสัมมนาเกี่ยวกับการแนะแนวกับทุกองค์กรที่จัดขึ้น ทำให้ได้รับความรู้และเทคนิคในด้านการแนะแนว   สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับนักเรียนได้เป็นอย่างดี  ซึ่งงานด้านระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เป็นงานที่ข้าพเจ้าได้ให้ความสนใจและทุ่มเทกำลังกาย  กำลังใจ  อุทิศและเสียสละตนเพื่อเด็กนักเรียนที่ด้อยโอกาสให้ได้มีโอกาสทัดเทียมกับผู้อื่นในสังคม   ทุกๆปีในวันแม่ข้าพเจ้าจะขึ้นไปบนเวทีเพื่อเป็นตัวแทนของแม่ให้กับเด็กๆ ซึ่งข้าพเจ้าจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ เมื่อนักเรียนเข้ามาไหว้และกอดแล้วบอกว่า “หนูรักคุณครู” ซึ่งเขาควรจะได้กอดแม่ผู้ให้กำเนิดเขาในวันนี้ และข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยกับการจัดกิจกรรมแบบนี้มันเหมือนไปตอกย้ำเขาอยู่ตลอดเวลาทุกๆปี ข้าพเจ้าเคยร้องให้น้ำตาไหลพรากไปกับเด็ก ซึ่งเป็นสิ่งที่ครูแนะแนวไม่ควรทำ เพราะอะไรน่ะหรือ ?
ก็เด็กอายุ  8  ขวบ พ่อแม่เสียชีวิตด้วยโรคร้าย เผชิญชีวิตอยู่ตามลำพัง  ญาติพี่น้องก็ไม่อยากเลี้ยงดูเพราะไม่มีทรัพย์สมบัติให้  ผลักกันไปดันกันมา  จนเด็กมีพฤติกรรมก้าวร้าวเพราะรู้ว่าไม่มีใครรัก  ไม่ใช่ความผิดของเด็กเลย  ผู้ใหญ่ต่างหากที่ทำให้เขาต้องมีพฤติกรรมแบบนั้น   ความรักความอบอุ่นในครอบครัวนั้น เป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็กและเยาวชนผู้ที่จะเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต  หากครอบครัวขาด ความรัก ความอบอุ่น และการดูแลเอาใจใส่  ก็จะส่งผลต่อพฤติกรรมในทางที่ไม่ดีต่างๆของเด็กและจะติดตัวไปจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่
                “โครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน”  จึงเป็นโครงการที่เหมาะสมสำหรับการส่งเสริม ป้องกันและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียน ซึ่งโรงเรียนของข้าพเจ้า เป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา  ภายในโรงเรียนหลากหลายด้วยปัญหาของผู้เรียน  นักเรียนที่เข้ามาเรียน มีหลายประเภท  เช่น  นักเรียนที่ออกกลางคันจากหลายโรงเรียน  เด็กด้อยโอกาส  เด็กที่ได้รับผลกระทบจากภัยเอดส์  เด็กขาดความอบอุ่นเนื่องจากครอบครัวแตกแยก เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้  ฯลฯ  ซึ่งทั้งครูและครอบครัวต้องดูแลเอาใจใส่ช่วยเหลือและเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปให้กับเขา  ต้องศึกษาทำความเข้าใจ คอยดูแลเขาอย่างใกล้ชิด   ข้าพเจ้าได้มองเห็นความสำคัญของปัญหาและได้เสนอ กิจกรรมสนทนาศิษย์ลูก  กิจกรรมเยี่ยมบ้านนักเรียน และกิจกรรมเครือข่ายผู้ปกครองเข้มแข็ง กิจกรรมดนตรีบำบัด ที่นำ ดนตรีมาเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหา ทำให้นักเรียนได้รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และก่อให้เกิดความจรรโลง ใจ  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน   ข้าพเจ้าได้นำเสนอโครงการให้กับผู้บริหารและได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบ  ทำให้เกิดผลดีและมีประสิทธิภาพ  โดยคำนึงถึงตัวนักเรียนเป็นหลัก ให้เขาได้รับประโยชน์สูงสุด และมีความสุข  ส่งผลให้โรงเรียนได้รับรางวัลการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนดีเด่น ระดับเขตพื้นที่  ครูได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นครูดีในดวงใจ และได้รับรางวัลครูดีเด่น ประเภทกิจกรรมแนะแนว ระดับ เขตพื้นที่   ด้วยจิตวิญญาณของความเป็นครู มุ่งมั่นรับผิดชอบ อุทิศตนด้วยแรงกายแรงใจ และแรงปัญญา   อุทิศเวลา  และกำลังทรัพย์  เพื่อเด็กน้อยผู้น่าสงสารเหล่านี้  เพราะเด็กส่วนใหญ่เป็นเด็กกำพร้า  เด็กขาดความอบอุ่น  ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงอุทิศตนเพื่อดูแลช่วยเหลือเด็กทุกคนในโรงเรียน  โดยการสมัครเข้ารับการอบรมเป็นผู้ให้บริการสอนเสริมเด็กพิการเรียนร่วม  ที่ศูนย์การศึกษาพิเศษจังหวัดลำปาง ได้รับการรับรอง เพื่อสอนเสริมแก่เด็กพิเศษที่มีปัญหาด้านสติปัญญาและการเรียนรู้ ให้กับเด็กในโรงเรียน เพื่อเติมเต็มแก่เด็กด้อยโอกาสให้เขาเหล่านั้น ได้มีโอกาส มีอนาคตที่ดีสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ข้าพเจ้าจะออกเยี่ยมบ้านจัดกิจกรรมตามโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน  ทำให้ได้รับทราบถึงปัญหา ชีวิตความเป็นอยู่ ชีวิตครอบครัวของนักเรียน ได้สนทนาซักถาม   ทำการส่งเสริม  ป้องกันและวางแผนร่วมกันกับผู้ปกครองในการแก้ปัญหาให้กับเด็กส่งผลให้นักเรียนของข้าพเจ้า เป็นคนเก่ง คนดี และใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข
            การพัฒนาการศึกษานั้นจะเกิดผลดีได้  ควรได้รับความร่วมมือกับทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นครอบครัว   เด็ก  และโรงเรียน  โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง ครอบครัว เพราะครอบครัวเป็นสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าพฤติกรรมต่างๆ ของเด็กอยู่ที่การเลี้ยงดูและสั่งสอนจากครอบครัว  หากเขาได้รับการเลี้ยงดูอย่างไร ก็จะมีพฤติกรรมอย่างนั้น  ดังนั้นเด็ก ที่จะเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดีจะต้องมีพื้นฐานครอบครัวที่เข้มแข็ง   และได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากครูที่โรงเรียน การเปิดโอกาสให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา  เพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างผู้ปกครอง  เด็ก  และครู  จะทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนทัศนคติที่ดีต่อกัน เป็นการเสริมสร้างความรักความผูกผันให้กับเด็ก  ทำให้เด็กเป็นคนดี มีคุณธรรมสามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข  การพัฒนาการศึกษาจึงจะถือว่าประสบความสำเร็จบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งไว้ อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล 

วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

วันเด็กแห่งชาติ

วันเด็กแห่งชาติ


 ประวัติความเป็นมา

         วันเด็กแห่งชาติ มีต้นกำเนิดมาจากการที่องค์การสหประชาชาติทั่วโลกเกิดความตื่นตัว และเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะให้ความสำคัญแก่เด็ก ๆ โดยในปี พ.ศ. 2498 นายวี เอ็ม กุล ผู้แทนองค์การสหพันธ์เพื่อสวัสดิการเด็กระหว่างประเทศ ได้เป็นผู้เสนอต่อกรมประชาสงเคราะห์ ให้มีการจัดงานวันเด็กแห่งชาติขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้เห็นความสำคัญ และความต้องการของเด็ก รวมถึงเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เด็กตระหนักถึงบทบาทอันสำคัญของตนในประเทศ โดยปลูกฝังให้เด็กมีส่วนร่วมในสังคม เตรียมพร้อมให้ตนเองเป็นกำลังของชาติ





 วัตถุประสงค์การจัดงานวันเด็กแห่งชาติ


         สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ที่รัฐบาลไทยกำหนดไว้ คือ เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของเด็ก สนใจในการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนเด็ก และช่วยเหลือสงเคราะห์เด็กเป็นพิเศษ เพื่อให้เด็กและและเยาวชนยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เพื่อให้เด็กรู้จักหน้าที่ของตนและอยู่ในระเบียบวินัยอันดี และเพื่อเผยแพร่ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิของเด็ก

         นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่า ทุก ๆ ปี ในวันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะพระราชทานพระบรมราโชวาท สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงโปรดประทานพระคติธรรม และ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีจะมอบคำขวัญวันเด็ก แสดงให้เห็นว่าเด็กเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ามากที่สุดของชาติ เราจึงได้ยินคำพูดอยู่บ่อย ๆ ว่า "เด็กคืออนาคตของชาติ เด็กฉลาด ชาติเจริญ"



คำขวัญวันเด็ก

คำขวัญวันเด็ก เป็นคำขวัญที่นายกรัฐมนตรีมอบให้เด็กไทย เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติของทุกปี โดยคำขวัญวันเด็กมีขึ้นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2499 ในสมัยที่จอมพล ป. พิบูลสงครามดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และตั้งแต่ พ.ศ. 2502 จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้ให้คุณค่าความสำคัญของเด็ก จึงมอบคำขวัญให้เป็นข้อคติเตือนใจสำหรับเด็กปีละ 1 คำขวัญ (ก่อนถึงวันเด็กแห่งชาติ) นายกรัฐมนตรีสมัยต่อมา จึงได้ถือเป็นธรรมเนียมสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน


ปีนายกรัฐมนตรีคำขวัญ
พ.ศ. 2499จอมพล ป. พิบูลสงครามจงบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและส่วนรวม
พ.ศ. 2502จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความก้าวหน้า
พ.ศ. 2503จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความสะอาด
พ.ศ. 2504จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่อยู่ในระเบียบวินัย
พ.ศ. 2505จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่ประหยัด
พ.ศ. 2506จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่มีความขยันหมั่นเพียรมากที่สุด
พ.ศ. 2507จอมพลถนอม กิตติขจรไม่มีคำขวัญ เนื่องจากงดการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ
พ.ศ. 2508จอมพลถนอม กิตติขจรเด็กจะเจริญต้องรักเรียนเพียรทำดี
พ.ศ. 2509จอมพลถนอม กิตติขจรเด็กที่ดีต้องมีสัมมาคารวะ มานะ บากบั่น และสมานสามัคคี
พ.ศ. 2510จอมพลถนอม กิตติขจรอนาคตของชาติจะสุกใส หากเด็กไทยแข็งแรงดีมีความประพฤติเรียบร้อย
พ.ศ. 2511จอมพลถนอม กิตติขจรความเจริญและความมั่นคงของชาติไทยในอนาคต ขึ้นอยู่กับเด็กที่มีวินัย เฉลียวฉลาดและรักชาติยิ่ง
พ.ศ. 2512จอมพลถนอม กิตติขจรรู้เรียน รู้เล่น รู้สามัคคี เป็นความดีที่เด็กพึงจำ
พ.ศ. 2513จอมพลถนอม กิตติขจรเด็กประพฤติดีและศึกษาดี ทำให้มีอนาคตแจ่มใส
พ.ศ. 2514จอมพลถนอม กิตติขจรยามเด็กจงหมั่นเรียน เพียรกระทำดี เติบใหญ่จะได้มีความสุขความเจริญ
พ.ศ. 2515จอมพลถนอม กิตติขจรเยาวชนฝึกตนดี มีความสามารถ
พ.ศ. 2516จอมพลถนอม กิตติขจรเด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ
พ.ศ. 2517สัญญา ธรรมศักดิ์สามัคคีคือพลัง
พ.ศ. 2518สัญญา ธรรมศักดิ์เด็กดีคือทายาทของชาติไทย ต้องร่วมใจร่วมพลังสร้างความสามัคคี
พ.ศ. 2519หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมชเด็กที่ต้องการเห็นอนาคตของชาติรุ่งเรือง จะต้องทำตัวให้ดี มีวินัย เสียแต่บัดนี้
พ.ศ. 2520ธานินทร์ กรัยวิเชียรรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเยาวชนไทย
พ.ศ. 2521พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติมั่นคง
พ.ศ. 2522พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์เด็กไทยคือหัวใจของชาติ
พ.ศ. 2523พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์อดทน ขยัน ประหยัด เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย
พ.ศ. 2524พลเอกเปรม ติณสูลานนท์เด็กไทยมีวินัย ใจสัตย์ซื่อ รู้ประหยัด เคร่งครัดคุณธรรม
พ.ศ. 2525พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ขยันศึกษา ใฝ่หาความรู้ เชิดชูชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย
พ.ศ. 2526พลเอกเปรม ติณสูลานนท์รู้หน้าที่ ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด มีวินัยและคุณธรรม
พ.ศ. 2527พลเอกเปรม ติณสูลานนท์รักวัฒนธรรมไทย ใฝ่ดีมีความคิด สุจริตใจมั่น หมั่นศึกษา
พ.ศ. 2528พลเอกเปรม ติณสูลานนท์สามัคคี นิยมไทย มีวินัย ใฝ่คุณธรรม
พ.ศ. 2529พลเอกเปรม ติณสูลานนท์นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
พ.ศ. 2530พลเอกเปรม ติณสูลานนท์นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
พ.ศ. 2531พลเอกเปรม ติณสูลานนท์นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
พ.ศ. 2532พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
พ.ศ. 2533พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
พ.ศ. 2534พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณรู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่คุณธรรม นำชาติพัฒนา
พ.ศ. 2535อานันท์ ปันยารชุนสามัคคี มีวินัย ใฝ่ศึกษา จรรยางาม
พ.ศ. 2536ชวน หลีกภัยยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม
พ.ศ. 2537ชวน หลีกภัยยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม
พ.ศ. 2538ชวน หลีกภัยสืบสานวัฒนธรรมไทย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม
พ.ศ. 2539บรรหาร ศิลปอาชามุ่งหาความรู้ เชิดชูความเป็นไทย หลีกไกลยาเสพติด
พ.ศ. 2540พลเอกชวลิต ยงใจยุทธรู้คุณค่าวัฒนธรรมไทย ตั้งใจใฝ่ศึกษา ไม่พึ่งพายาเสพติด
พ.ศ. 2541ชวน หลีกภัยขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย
พ.ศ. 2542นายชวน หลีกภัยขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย
พ.ศ. 2543ชวน หลีกภัยมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย
พ.ศ. 2544ชวน หลีกภัยมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย
พ.ศ. 2545พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตรเรียนให้สนุก เล่นให้มีความรู้ สู่อนาคตที่สดใส
พ.ศ. 2546พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตรเรียนรู้ตลอดชีวิต คิดอย่างสร้างสรรค์ ก้าวทันเทคโนโลยี
พ.ศ. 2547พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตรรักชาติ รักพ่อแม่ รักเรียน รักสิ่งดีๆ อนาคตดีแน่นอน
พ.ศ. 2548พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตรเด็กรุ่นใหม่ ต้องขยันอ่าน ขยันเรียน กล้าคิด กล้าพูด
พ.ศ. 2549พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตรอยากฉลาด ต้องขยันอ่าน ขยันคิด
พ.ศ. 2550พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์มีคุณธรรมนำใจ ใช้ชีวิตพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข
พ.ศ. 2551พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม
พ.ศ. 2552อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี
พ.ศ. 2553อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะคิดสร้างสรรค์ ขยันใฝ่รู้ เชิดชูคุณธรรม
พ.ศ. 2554อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะรอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ
พ.ศ. 2555ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรสามัคคี มีความรู้คู่ปัญญา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี





       คนทุกคนมีหน้าที่ต้องทำ แม้เป็นเด็กก็มีหน้าที่อย่างเด็ก คือศึกษาเล่าเรียน หมายความว่า จะต้องเรียนให้รู้วิชา ฝึกหัดทำการงานต่าง ๆ ให้เป็น อบรมขัดเกลาความประพฤติและความคิดจิตใจให้ประณีต ให้สุจริต แจ่มใส และเฉลียวฉลาดมีเหตุผล เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถและประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง.
พระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระเจ่าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช
พระราชทานเพื่อเชิญลงพิมพ์ในหนังสือวันเด็ก ประจำปี 2535